สันทิฏฐิโกจากผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร
หลงปรุงแต่งยึดสังขารเป็นตัวตน เพลิดเพลินในสมมุติวัฏฏะทุกข์
มืดบอดสนิทในจิตคิดเห็นว่าเป็นสุข เสพทุกข์เคล้าสุขอยู่ชั่วกาล
มีโลภ โกรธ หลง อยู่ในจิต สังโยชน์ผูกมัดมิดมิอาจหาย
ยิ่งดิ้นแรงยิ่งทุกข์ใจและกาย สุดท้ายตายชาติต่อชาติอนาถใจ
เหตุเพราะมีอวิชชาห่อหุ้มจิต ปิดมืดมิดสนิทแนบมิเสื่อมหาย
ดำเนินภพชาติดิ้นรนขวานขวายไปจนตาย มิได้คลายจากความทุกข์พบสุขเลย
ตื่นจากฝันนิตย์นิรันดร์พลันเสียเทิด สิ่งที่เลิศเลอค่าคือทุกข์หาย
สิ่งใดหมายปองสุขทุกข์จนตาย ตื่นเสียได้ไร้ตัวตนคนอย่างเรา
มืดบอดสนิทในจิตคิดเห็นว่าเป็นสุข เสพทุกข์เคล้าสุขอยู่ชั่วกาล
มีโลภ โกรธ หลง อยู่ในจิต สังโยชน์ผูกมัดมิดมิอาจหาย
ยิ่งดิ้นแรงยิ่งทุกข์ใจและกาย สุดท้ายตายชาติต่อชาติอนาถใจ
เหตุเพราะมีอวิชชาห่อหุ้มจิต ปิดมืดมิดสนิทแนบมิเสื่อมหาย
ดำเนินภพชาติดิ้นรนขวานขวายไปจนตาย มิได้คลายจากความทุกข์พบสุขเลย
ตื่นจากฝันนิตย์นิรันดร์พลันเสียเทิด สิ่งที่เลิศเลอค่าคือทุกข์หาย
สิ่งใดหมายปองสุขทุกข์จนตาย ตื่นเสียได้ไร้ตัวตนคนอย่างเรา