พระขานุโกณทัญญเถระ : ผู้นิ่งดุจตอไม้

พระขานุโกณทัญญเถระ : ผู้นิ่งดุจตอไม้

ปริยัติธรรม

หนังสือ พระพุทธวจนะ คาถาธรรมบท จาก...พระไตรปิฎก

โย จ วสฺสสตํ ชีเว ทุปฺปญฺโญ อสมาหิโต เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย ปญฺญวนฺตสฺส ฌายิโน.

คนไม่มีปัญญา มีจิตไม่มั่นคง มีชีวิตอยู่ ๑๐๐ ปี, คนมีปัญญา มีฌาน มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียวประเสริฐกว่า


พวกโจรวางท่อทรัพย์ทับพระเถระเพราะคิดว่าเป็นตอไม้...หมู่โจรขอบวชกับท่านแล้วได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์ทุกรูป

โกณฑัญญะ เรียนกรรมฐานในสํานักของพระพุทธเจ้าแล้ว ไปบําเพ็ญเพียรในป่า บรรลุพระอรหัต (เป็นพระอรหันต์) แล้วเดินทางไปเข้าเฝ้าพระศาสดาที่พระเชตวัน กรุงสาวัตถี ระหว่างทางท่านได้แวะพักค้างแรมบน แผ่นหินมีหลัง (ปิฏฐิปาสาเณ หมายถึง หินเรียบด้านหลังมีโขดหิน เมื่อท่านนั่ง พวกโจรมากลางคืนจึงเข้าใจผิดว่าตัวท่านและโขดหินเป็นตอไม้) ตอนกลางคืนมีพวก โจร ๕๐๐ เข้าไปปล้นหมู่บ้านแล้วหนีมาแวะพักบนบริเวณแผ่นหินนี้ มองเห็นท่านนั่งเข้าฌานอยู่ ก็เข้าใจว่า “นี่เป็นตอไม้” จึงนําห่อทรัพย์สิน ๕๐๐ ห่อวางสุมลงบนตัวของท่านจนมิดศีรษะ ความอ่อนเพลียทําให้พวกโจรหลับไป จนถึงอรุณขึ้นก็รีบหยิบห่อทรัพย์มาถือเพื่อเดินทางต่อก็เห็นพระโกณฑัญญะนั่งอยู่ คิดว่าเป็นอมนุษย์ จึงจะวิ่งหนี, ท่านพูดขึ้นว่า “อย่ากลัวเลย เราเป็นบรรพชิต” พวกโจรพากันหมอบลงที่ใกล้เท้าขอให้ท่านยกโทษ, ท่านยกโทษให้แล้ว หัวหน้าโจรกล่าวขอบวช แม้บรรดาลูกน้องก็ขอบรรพชา ท่านให้โจรเหล่านั้นบรรพชาแล้ว (= บวชเป็นสามเณร เพราะ ขณะนั้นท่านอยู่รูปเดียว ต่อมาภิกษุสงฆ์ก็อุปสมบทให้สามเณรเหล่านั้นด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรมวาจา) แต่นั้นมาท่านก็ได้ชื่อว่า “พระขานุโกณฑัญญะ” (โกณฑัญญะตอไม้)

ท่านพาสามเณรเหล่านั้น (ท่านเรียกว่า เตหิ ภิกขูหิ = ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น) เข้าเฝ้าพระศาสดาในพระเชตวัน พระศาสดาตรัสถามว่า “โกณฑัญญะ เธอได้อันเตวาสิกแล้วหรือ?” (= ท่านเป็นอาจารย์ของพวกเขา) ท่านจึงกราบทูลเรื่องทั้งหมดให้ทรงทราบ, ตรัสสอนภิกษุเหล่านั้นว่า “การมีชีวิตอยู่แม้เพียงวันเดียวของพวกเธอ ผู้มีความเป็นไปถึงพร้อมด้วยปัญญาในกาลนี้ ประเสริฐกว่าผู้มีชีวิตอยู่นาน ๑๐๐ ปี แต่ตั้งอยู่ในการกระทําของคนมีปัญญาทรามเช่นนั้น คือ เป็นโจร)” แล้วตรัสภาษิตนี้, จบพระพุทธดํารัส ภิกษุ ๕๐๐ รูปนั้นบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วย ปฏิสัมภิทา ๔

อธิบายพุทธภาษิต : ทุปฺปญฺโญ (มีปัญญาทราม) คือ ไม่มีปัญญา, ปญฺญวนฺตสฺส (ของผู้มีปัญญา) คือ ผู้เป็นไปกับปัญญา (ดู ธ.อ.๒/๓๙๗-๓๙๔)

คติธรรมความรู้ วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฎฐา : บรรดาสิ่งที่งอกขึ้น วิชชาประเสริฐสุด


พิมพ์