สมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนา บรรดาโยคี ฤๅษี ชีไพรดาบส ที่บำเพ็ญตบะเดชะภาวนา เกิดความพอใจเป็นนักหนา ในภาวะที่ไม่มีตัวตนไม่มีรูปกาย ปรารถนาอยู่แต่ในความไม่มีรูป
พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร กล่าวว่า ที่สุดข้างต้นของสังสารวัฏไม่ปรากฏ แม้ที่สุดข้างปลายก็ไม่ ปรากฏ
เจ้าสุปปพุทธะ ผู้เป็นบิดาของพระเทวทัตและพระนางยโสธรา แสดงอกุศลกรรมที่นําไปสู่ นรกอเวจี
สารีปุตตเถรมาตุเปตวัตถุ แสดงกรรม ที่นํามารดาพระสารีบุตรไปสู่ เปตวิสัย
นาคราชเอรกปัตตะ แสดงกรรมที่นําภิกษุไปเกิดเป็น สัตว์เดรัจฉาน
ภิกษุ ๗ รูป อดอาหาร ๗ วันในถ้ำ ภายในถ้ำมีเตียงอยู่ ๗ เตียง เมื่อภิกษุเหล่านั้น เข้าพักนอนบนเตียงนั้นแล้ว ตอนกลางคืน แผ่นหินเท่าเรือนยอดกลิ้งลงมาปิดประตูถ้ำ
ผลของการถวายทานและรักษาอุโบสถ ในพระอริยเจ้าผู้ปฏิบัติตรงได้บังเกิดในภพดาวดึงส์
ปุริสวิมานวัตถุ มัณฑูกเทวปุตตวิมาน แสดงสัตว์ จากเดรัจฉานภูมิ สู่เทวโลก
เมื่อไฟกําลังไหม้ปราสาท หญิงเหล่านั้นมนสิการ เวทนาปริคหกรรมฐาน บางพวกได้เป็นพระอนาคามี แล้วถึงแก่กรรม ไปบังเกิดใน ชั้นพรหมสุทธาวาส
บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติทุจริตด้วยกาย ประพฤติทุจริต ด้วยวาจา ประพฤติทุจริตด้วยใจ
บุคคลผู้นั้นหลังจากกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรกเพราะกรรมของตน
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงวัฏฏะ ด้วยทุกขอริยสัจ และทุกขสมุทยอริยสัจ ชี้แจงให้ทราบถึง ความถือมั่นด้วย ตัณหา มานะ และทิฏฐิ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงวิวัฏฏะ ด้วยทุกขนิโรธอริยสัจ และทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ เพื่อให้ ละอวิชชา อันเป็นรากเหง้าของวัฏฏะ ยัง วิชชา คืออรหัตตมรรคให้เกิดขึ้น
โทษของกามทั้งหลาย เพราะความสุขในสวรรค์ ก็ยังเพียบพร้อมอยู่ด้วยกามคุณ ๕ ชาวสวรรค์ก็ยังมีความยินดีพอใจในกามคุณ อารมณ์อันเป็นเหตุที่ยังทําให้วนเวียนอยู่ในวัฏฏะได้อีก
